เที่ยวเยอรมัน สนุกได้ทั้งวันทั้งคืน

เที่ยวเยอรมัน สนุกได้ทั้งวันทั้งคืน ดื่มกินที่มิวนิค เยี่ยมชมเมืองเนิร์นแบร์ก ตะลุยเบอร์ลิน

ทริปมาเยอรมันครั้งนี้ เอาจริงๆนะ ถ้าเป็นสมัยก่อนคงไม่มีความคิดที่อยากจะมา เพราะเราไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับเยอรมันเลย ถ้ารู้ก็คงจะเป็นแต่ในแง่ลบๆที่ ได้ฟังจากคนนู้นคนนี้มา ถามว่าอยากมาไหมตอนนั้นบอกเลย เยอรมันยังไม่อยู่ใน ลิสต์เลย แต่ที่เริ่มรู้สึกแรกๆเลยก็คงจะเป็นสมัยตอนที่ไปอาศัยอยู่ที่อเมริกาใต้ เพราะเริ่มมีเพื่อนเยอรมันเป็นครั้งแรก และก็เห็นความบ้าของแต่ละคน ผมก็เลยคิดว่าปัจจัยความบ้าพวกนี้น่าจะมาจากสังคมและที่ๆเขาอาศัย นั้นก็เป็นความคิดที่อยากจะไปเห็นเหมือนกัน แต่หลักๆที่เห็นก็น่าจะมาจากเบียร์ และใส้กรอกที่เห็นกันบ่อยๆไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม	แท็กยอดฮิต สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เที่ยวเวนิส ที่อิตาลี สัมผัสสีสันบาร์เซโลน่า? ไปรัสเซียเที่ยวมอสโก

มันเป็นเหมือนโชคชะตา พอเริ่มรู้จักคนเยอรมันคนหนึ่ง ก็เริ่มรู้จัก และมีเพื่อน เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การไปเยอรมันครั้งนี้ก็ไปพบเจอเพื่อนๆด้วยเลยได้มีไกด์ฟรี 555 และเปลี่ยนประสบการ์ณที่ไม่คาดคิดมาก่อนจนบอกได้เลยว่า กลับมาอีกแน่ๆเร็วๆนี้
เยอระมันมีแหล่งบันเทิงมากมาย รวมถึงร้านอาหาร และสถานที่สังสรรค์เยอะมาก ความเป็นอิสระเยอะมากมายจนรู้สึกเหมือนว่าอยู่ประเทศไทย แต่มีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่รู้สึกว่าเยอรมันนั้นมันฮาร์ดคอร์กว่า เช่นการดื่ม การปาร์ตี้ เครื่องดื่มสุรานั้น ถูกมากๆ ถูกกว่าเมืองไทยอีก ส่วนไวน์ก็ถูกจริงๆ ที่เห็นๆขายพันสองพัน พออยู่เยอรมัน ราคาไม่ถึง 4 ร้อยบาท ยิ่งไวน์ธรรมดา ไม่ถึง 80 บาท (2ยูโร)ในซูปเปอร์มาร์เก็ต เอาเป็นว่ามาเริ่มกันเลยดีกว่า

ของฝากให้เพื่อนๆในเยอรมัน ผมเดินทางจากเวนิสโดยรถไฟมาที่มิวนิค ประสบการ์ณแรกที่ไม่น่าสนุกเลย คือพวกคนอพยพ หนีขึ้นรถไฟมาตรงด่านออสเตรีย จากนั้นก็วิ่งเข้ามามุดใต้ที่นั่งผม บรรยายถึงรถไฟก่อน คือมันจะเป็นห้องๆ ห้องหนึ่งอยู่ได้ประมาณ 4-6 คน พวกนี้วิ่งเข้ามาแล้วก็จะหาห้องที่ไม่มีคนอยู่หรือหาห้องที่มีคนอยู่น้อยๆ แล้วก็มุดไปข้างใต้เพื่อหลบตำรวจ ในห้องนั้นผมนั่งกับคนอิตาลีและคนเยอรมัน ซึ่งระหว่างที่นั้นนั้นทั่งกลิ่น ทั้งอะไรหลายๆอย่างรู้สึกอึดอัดมากๆ แต่ก็ผ่านพ้นด้วยดีจนถึงมิวนิค ผมสัญญากับตัวเองว่าสิ่งแรกที่มาแล้วต้องมากินให้ได้เลยคือใส้กรอกและเบียร์เยอรมัน ลงมาสถานีรถไฟปั๊ปก็ไม่รีรอ รีบมุ่งไปหาซื้อใส้กรอกอะไรก็ได้ที่ทำในเยอรมันและเบียร์เพื่อ มากระแทกปากก่อนเลย 555
หลังจากกินเสร็จก็เตรียมตัวไปที่พัก ซึ่งผมพักกับเพื่อนที่รู้จักกัน เนื่องด้วยเพื่อนที่รู้จักกัน เป็นมังสวิรัติ และไม่กินพวกนี้ ผมเลยคิดและว่าคงพักอยู่กับเพื่อนได้ไม่นาน เพราะส่วนตัวเป็นคนที่เวลาไปเที่ยวจะต้องสนุก และปาร์ตี้ แต่เวลาทำงานนั้นหรือมีหน้าที่ให้รับผิดชอบนั้นก็จะเป็น คนที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาก แผนที่รถไฟมิวนิค โอ้มายก๊อตตตตต สภาพหลังจากนั้นรถไฟมาทั้งวัน
เนื่องจากเพื่อนผมอยู่ไกลมากกกกกก นอกเมืองเลย เลยแบบรู้สึกและว่าลำบากแน่ๆสำหรับผม เพราะเที่ยวครั้งนี้ไม่ได้มาเยี่ยมญาติ แต่มาเที่ยว มาสนุก เลยตัดสินใจอยู่แค่สองคืน เเละย้ายไปอยู่ในเมืองแทน ฝนตกเล็กน้อยตอนเช้า อันนี้เช้าวันรุ่งขึ้น ผมก็ไปทัวร์ที่มิวนิค โดยก็ไปสถานที่ต่างๆ ปัจจัยสำคัญๆของผม คืออินเตอร์เน็ต ขาดไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่ต้องติดต่อสื่อสารและใช้ GPS อยู่ตลอดเวลา เพราะยังต้องคุยกับเพื่อนๆที่อยู่ในเยอรมันอีก เลยไปหาแต่แพงๆทั้งนั้นเลย 2 พันกว่า ได้แค่ 500 MB แต่โชคดี เดินหาไปเรื่อยๆไปเจอร้านหนึ่ง ขาย 5 GB ราคาเดียวกันเลย เลยเลือกเจ้านี้แทน แรงด้วย ร้านชื่อวา Mobilcom Debitel ร้าน T mobile(แพงมาก) อีกร้านด้านขวามือ ต้องเดินๆหาหน่อยนะ Mobilcom Debitel
อากาศแปรปรวนมากๆ บริเวณ Marienplatz
ที่แรกที่ไปเยี่ยมชมคือ Marienplatz การเดินทางมาง่ายมากโดยรถไฟ แนะนำให้ซื้อพวกเป็นรายสัปดาห์ไปเลยถ้าจะอยู่เกิน 5 วัน เพราะคุ้มกว่ามาก ถึงจะแพงหน่อย เนื่องจากฝนตกปรอยๆทั้งวันเลย ก็เลยไม่เดินท่องเที่ยวลำบากหน่อย แต่ถึงอย่างไรก็เหอะ บริเวณนี้จะใกล้กับที่สำคัญเช่น Munich Frauenkirche หรือใครอยาก เดินมาจับจ่ายหรือมาลานเบียร์ก็ที่นี้เลย Biergarten Viktualienmarkt แถวตลาด ซึ่งอยู่ใกล้กับร้านเบียร์มากๆ อันนี้ก่อนจะมาเดินตลาด ไปนั่งจิบเบียร์ที่ร้านกาแฟมาก่อน พร้อมกับใส้กรอกเบาๆ แดกเบียร์ต่อในตลาดอีก ถูกมากๆเบียร์ที่นี้ ถึงลานเบียร์แล้วสินะ อิอิอิ
หลังจากเดินรอบๆแล้ว เพื่อนของเพื่อนก็ชวนมากินไวน์ต่อที่บ้านเลยจัดไป ระหว่างขึ้นรถไปบ้านเพื่อนอีกคน รถคันนี้จะมีที่ให้กดตั๋ว หากกรณีรีบมาก ลืมซื้อตั๋วมาจากด้านล่าง ก็สามารถมาซื้อด้านบนได้ คือไม่ต้องกลัวเขาจะโกงหรอก เพราะคนพื้นเมืองที่นี้เขารู้หน้าที่ดี ที่อร่อยนะคือกับแกล้ม 5555 คือจะบอกว่าตั้งแต่เช้ายันบ่ายมา นั่งกินเหล้าทั้งวันเป็นน้ำ อยู่แล้ว กินจนแบบรู้สึกว่าคุ้มที่ได้มาเยอรมัน
หลังจากนั่งสักพัก ก็ถึงเวลาดินเนอร์ คือตอนนั้นบอกเลยว่ายังไม่หิว แต่ก็ตามเพื่อนไป เพื่อนก็ดันอยากไปกินอาหารเวียดนามอีก เลยเออๆออๆไป พอไปถึงก็พยายามหาอาหารราคาถูกสุด เลยสั่งซุปนั่งฆ่าเวลาไป ไอเราก็นึกว่าจะมีไก่ มีนู้นนี้ สรุป ซุปราคาสองร้อยกว่าบาท แม่งมีแต่น้ำเหมือนเอาน้ำไปใส่คนอร์ยังไงยังงั้นเลย 5555 ในรูปคือแกจิบไปสองช้อนเฉยๆนะ ไมใช้กินหมดแล้วมาถ่าย 555 ดูสภาพสิแม่งเสียดายตังค์มากๆ 555 หลังจากออกมาอยู่ในเมืองเอง เริ่มมีอิสระมากขึ้น สนุกมากขึ้นเพราะได้เดินๆไปดูที่ที่อยากไป เลยเดินไปเก็บภาพวันฟ้าสดใสอีก
เนื่องด้วยวันนี้เพื่อนสมัยที่อยู่โคลัมเบียว่างพอดี เลยแวะไปหาหน่อย ที่ที่เพื่อนอยู่นั้นค่อนข้างไกลมาก อยู่ที่ freising เลยต้องนั่งรถไฟยาวหน่อย
คนแน่นมากๆ แตก็ไปคนละคันกันนะ พอไปถึงสิ่งแรกที่บอกเพื่อนเลยคือ ไปหาอะไรกระทบปากกัน เลยไปซื้อของมาเล็กน้อยที่ซูปเปอร์ก่อนจากนั้นเพื่อนก็พาไปดู โรงเบียร์ brewery ที่มีชื่อเสียงมากๆในมิวนิค ซึ่งสถานที่นี้อยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนที่เพื่อนผมเคยเรียน เพื่อนผมเล่าให้ฟังมา เด็กที่นี้พอเลิกเรียนก็จะมาดื่มกัน สนุกสนาน ทำกันเป็นกิจวัตรกันที่เดียว ซื้อมาตุนไว้ก่อนเล็กน้อย
ก่อนที่จะไปดูที่นั้น เผอิญเจอดอกไม้พอดี เพื่อนเลยแวะพามาชม
เดินขึ้นมาบนเขาเรื่อยๆ ขอสักรูป สักพักพวกเราก็เดินทางไปร้านเบียร์ที่มีชื่อเสียงในที่นี้ ที่ Bräustüberl เป็นทั้งร้านอาหารด้วย และเป็นหนึ่งในโรงเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
ที่ร้านจะมีด้านนอกให้นั่งจิบเบียร์สนุกสนาน และสามารถมองเห็นวิวได้ด้วย เลยถือโอกาสถ่ายภาพที่ระลึกอีกครั้ง
และแล้วเราก็ตามมาดูที่ทำเบียร์กัน อันนี้เป็น Tobacco ที่ใช้จมูกสูดเอา เย็นสดชื่นมาก
หลังจากนั่งสำราญได้สักพัก เพื่อนก็พาไปกินร้านอีกที่หนึ่ง เป็นร้านอาหารเยอรมัน ที่ Hofbrauhaus freising ร้านนี้มีอาหารอร่อยๆเยอะมาก คือจริงๆแล้วมื้อนี้ต้องการจะมาเลี้ยงเพื่อน เพราะสมัยอยู่อเมริกาใต้ โดนล้วงกระเป๋าแล้ว ได้เพื่อนคนนี้แหละที่ให้ยืมตังค์ ตอนนั้นใช้คืนเรียบร้อยแต่ยังติดอยู่ไม่กี่ยูโร สรุปว่า เพื่อนเลี้ยงหมดเลยจ้าาา ไม่ต้องจ่ายเลย 5555 ระหว่างเดินไปหาร้านอาหาร แสงสีงดงามมาก
ถึงจนได้
แดกฟรีครับ 5555 หลังจากจบดินเนอร์ไป ผมก็แยกกลับบ้านก่อนเพราะพรุ่งนี้เพื่อนมีงาน แต่ผมไม่มี 555 ดึกๆก็เลยออกไปสังค์สรรค์ ตั้งใจว่าจะมาฟังเพลงเยอรมันสรุปอังกฤษทั้งนั้น เนื่องจากว่าอยู่มิวนิคเป็นสัปดาห์และไม่รู้จะทำไร เผอิญมีเพื่อนที่พักโฮสเตลเดียวกัน คนโคลัมเบียเลยกลายเป็นไกด์แทน พาไปเที่ยวที่เดิมๆที่ไปมา (เพื่อนที่เจอในโฮสเตล) จบไปกับมิวนิค หลังจากนั้นก็ต้องไปอีกเมืองคือ Nuremberg(เนิร์นแบร์ก) เพื่อไปหาเพื่อน ใจจริงอยากไปมากๆด้วยที่นี้เพราะมันสวยงามมาก การเดินทางคือจองตั๋วผ่านเว็บ https://www.flixbus.com/ ยิ่งจองนาน ยิ่งถูกแบบมากๆๆๆ แต่คือจองวันนั้นเลยโดนค่าเสียหายไปเยอะหน่อย ระยะเวลาเดินทางแค่ชั่วโมงกว่าๆโดยรถบัส สถานที่ขึ้นรถนั้นจะอยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟ สถานที่ขึ้นรถ Einkaufspassage im ZOB
รถบัสจะมาจอดที่ Nuremberg (เนิร์นแบร์ก) ที่นี้เลย ระยะเวลานั่งไม่นานไม่เกินสองชั่วโมง
เพื่อนคนนี้น่ารักมากๆ รู้ว่าผมเป็นคนชอบไส้กรอก พอมาถึงก็มารับ และก็พาไปร้านใส้กรอก และซื้อมาเยอะแยะมาก บอกเลยฟินนนน!!! สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ห้ามพลาด (เพื่อนบอกมา) คือ Leberkäse (Le-ber-Kae-se) เป็นอาหารพื้นเมืองที่พลาดไม่ได้ เวลาขายก็ขายตามน้ำหนัก และกินกับขนมปังดังภาพ หลังจากซื้อสเบียงเสร็จ ก็เดินทางไปที่พัก ซึ่งได้อยู่บ้านเพื่อน อันนี้จะดีหน่อยเพราะจะได้อิสระในการเข้าออกบ้าน จะออกจะเข้าตอนไหนก็ได้ แถมเพื่อนให้กุญแจมากดอกหนึ่งไว้สำหรับเข้าออก ได้ด้วย คือตั้งแต่มาเที่ยว ได้ลองไปหลากหลายเบียร์มาก แต่ถ้าจะลองให้หมดก็ 4-5 พันกว่าแบบ คงต้องอยู่ทั้งปีเลยทีเดียว ของกินต้อนรับ 555
เพื่อนคนนี้เจอกันสมัยตอนไปอเมซอน และก็ติดต่อกันตลอด จนได้มาเจอกันอีกปัจจุบัน เนื่องจากเพื่อนบอกว่าถ้าเมา กลับบ้านไม่ถุกไม่รู้อยู่ไหน ให้บอกแท็กซี่ว่ามาโรงแรมนี้ ถ้าถามว่า Nuremberg (เนิร์นแบร์ก) โด่งดังเรื่องอะไร ก็น่าจะเป็นพวกบ้านช่องที่สวยงาม และเมืองที่ดูเหมือนอยู่ในเทพนิยาย เพราะมีทั้งปราสาทราชวังแบบในหนังการ์ตูน ทางเดินแบบยุคเก่า โบสถ์ที่สวยงาม และบ้านช่องที่เหมือนในวอลล์ดิสนีย์ และเนื่องด้วยนูเรมเบิร์กนั้นเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ของแคว้นบาวาเรีย และยังเป็นศูนย์กลางของชาวโรมันที่ยังคงทิ้งอดีตต่างๆ ทำให้เราได้เห็นความเก่าแก่และสวยงามที่นี้ อันนี้งานที่จะจัดขึ้นไม่กี่วัน Die Blaue Nacht (ประกาศสีฟ้า)
สถานที่ต่างๆในเมือง นี้ขนาดถ่ายจากกล้องโทรศัพท์เน่าๆยังขนาดนี้ ถ้าถ่ายจากกล้องจริงๆจะขนาดไหน Nürnberg (เนิร์นแบร์ก)
บ้านเมืองสวยงามมากๆ อันนี้กับเพื่อนๆ
เนื่องด้วยเพื่อนอีกคนอยากให้ไปดูอีกเมือง เลยพาไปเมืองที่ใกล้กันอีก เมืองนี้ชื่อว่า Fürth (เฟือร์ธ)เป็นเมืองเล็กๆที่น่าอยู่มากๆ Fürth (เฟือร์ธ) ผมมีความรู้สึกเล็กๆว่า เมืองในเยอรมันที่น่าอยู่ ส่วนมากจะเป็นในชนบท เพราะธรรมชาติและความไม่แออัด มันทำให้รู้สึกว่า สงบมากกว่าในเมืองใหญ่ๆ
ในที่สุดก็ถึงวันงาน Die Blaue Nacht ผมเคยเห็นคนใส่ชุดคน Bavaria ใส่กันบ่อยๆ เลยอยากหาซื้อมาใส่บ้าง เพราะที่เมืองไทยนั้นไม่มีขาย หากมีขายก็ไม่ใช้ของจริง เลยรีบตามหามาใส่ ซื่งเพื่อนก็ช่วยกันเดินตามหากันใหญ่ สนุกมากๆ 5555 และในที่สุดก็ได้ใส่ แต๊นนนนนนๆๆๆ ชุดอาจจะไม่เหมือนเท่าไหร่เพราะเพื่อนบอกว่า แต่ละหมู่บ้าน ก็จะมีชุดประจำของตัวเอง มีสีที่ไม่เหมือนใคร หมดค่าเสียหายไปร้อยกว่ายูโร แต่ก็คุ้มเพราะว่าได้ของจริงมาเลย อันนี้ก็เป็นสถานที่ที่เขาจะจัดงานกัน และนี้ก็เป็นบรรยากาศรวมๆ ส่วนที่นี้คือ Kaiserburg Castle ปราสาทในเทพนิยายตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ท่ามกลางหมู่ป่าสน เดินไปมาที่นี้เหมือนได้เป็นเจ้าชาย ของเนิร์นแบร์ก Schoner Brunnen น้ำพุที่นี่หากใครต้องการอธิษฐาน ก็ให้หมุนแหวนที่น้ำพุ 3 ครั้ง ก็จะได้สมใจ (ตอนผมไปนั้นเขากำลังบรูณะอยู่พอดี) รับประทานไส้กรอกแท้ๆจากเนิร์นแบร์ก ปาร์ตี้ตอนกลางคืน สรุปทริปที่ Nürnberg (เนิร์นแบร์ก) และ Fürth (เฟือร์ธ) ประทับใจมากๆ เนื่องด้วยอยู่ที่นี้ไม่นาน เลยตัดสินใจนั่งรถบัสเช่นเคยไปเบอร์ลิน ซึ่งนั่งไปประมาณตอนเที่ยงคืน ถึงประมาณเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นเลยครับ
BERLIN ถึงตอนเช้ารถมาจอดใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Messe ตอนเช้ารถติดอยู่นะครับ ดูได้จากรูป
สิ่งที่จะทำต่อไปนี้เลยที่คิดไว้ในหัวคือ หนึ่ง กินใส้กรอก Currywurst(เคอร์รี่เวิร์สต์) เป็นไส้กรอกราดซอสผงกะหรี่ อาหารประจำเมืองเบอร์ลินเลย และอันดับสองคือไป ชมกำแพงเบอร์ลิน อันดับสามไปประตูบรันเดนบูร์ก อันดับสี่ไป สนามบินที่เข้าปิดไปแล้ว และเปิดให้เป็นสวนสาธารณะ ที่ Berlin Tempelhof Airport จริงๆทั้งหมดก็มีแค่นี้แหละ แต่พอไปจริงๆ กลับได้ไปแวะนู้นแวะนี้ ได้รูปมาอีกหลายๆสถานที่

ผมไปพักที่ Baxpax hostel ซึ่งได้ห้องที่วิวสวยมาก พอมาถึงก็ไม่รีรอ รีบออกไปตลุยนอกเมือง โดยที่แรกที่ไปคือ Alexanderplatz ที่นี้เป็นศูนย์กลางของ ที่มีทั้งห้าง ร้านอาหาร และการขนส่ง โดยที่นี้ถ้าเปรียบกับเมืองไทยก็อนุสาวรีย์นี้เอง มีทุกอย่างครบ ผมได้ลิ้มลองเบียร์จากเบอร์ลินบ้าง แต่ก็เฉยๆ ไม่ค่อยเท่าไหร่
จากนั้นก็ไปต่อที่ห้างโดยอยากได้ตุ๊กตาเล็กๆไว้ติดตัว ในที่สุดก็ซื้อเจ้าสิงโตตัวเล็กมาแทน มาคอยไว้ถ่ายรูปคู่เวลาไม่มีใครถ่ายด้วย 555 ตัวที่ถืออยู่ไม่ได้ซื้อนะ ซื้อตัวเล็กกว่านี้ จากนั้นผมก็เดินทางไป ประตูบรันเดนบูร์ก( Brandenburger Tor) ที่นี้เราจะเห็นบ่อยๆ ตามรูปในหนังสือ ความสำคัญของที่นี้นั้น เนื่องจากมันเคยเป็นประตูผ่านระหว่างเยอรมนีตะวันตก และเบอร์ลินตะวันออก ซึ่งก็มีกำแพงเบอร์ลินกั้นไว้ เรื่องราวที่น่าสนใจก่อนที่พวกกำแพงเบอร์ลินจะทุบไปก็คือ หลังจากเยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่สองนั้น ฝ่ายสัมพันธมิตรก็แบ่งกันยึดครอง อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศสดูแลฝั่งตะวันตก สหภาพโซเวียตดูแลฝั่งตะวันออก เนื่องด้วยความเป็นอยู่ในฝั่งตะวันตกนั้นดูเจริญกว่ามากเพราะปกครองแบบประชาธิปไตย ทำให้คนที่อยู่ฝั่งตะวันออกที่ปกครองโดยรัสเซีย แอบหนีเข้ามาบ่อย จนต้องสร้างกำแพงขึ้น พอสร้างไปก็ยังรั่งคนที่จะหนี หรือทำลายกำแพงไม่ได้ ก็เลยมีการทุบทิ้งและสร้างใหม่ให้หน้าขึ้นและสูงขึ้นกว่าเดิม คนที่หนีได้ก็รอดไปส่วนคนที่พยายามหนี แล้วหนีไม่ได้ก็ต้องจบชีวิตลงที่นี้ เพราะช่วงระหว่างของกำแพง มีทั้งยาม สุนัข ระเบิดและลวดหนามสารพัด ซึ่งกำแพงเบอร์ลิน ถูกใช้งานเป็นเวลา 28 ปีและมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างถึง 4 ครั้ง ในปี ค.ศ. 1989 ตรงกับยุคที่ นายมีฮาอิล กอร์บาชอฟ เป็นประธานาธิบดี ของสหภาพโซเวียต ได้มีการทดลองการปฏิรูปการปกครองไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ในเยอรมนีตะวันออก ได้มีการชุมนุมประท้วงใหญ่อย่างสงบขึ้นโดยเฉพาะในเมือง โพสต์ดัม ไลพ์ซิจ และเดรสเดน และในที่สุด รัฐบาลเยอรมนีตะวันออกได้รับความกดดัน เป็นอย่างมากและก็ได้ ประกาศเปิดพรมแดนให้ชาวเยอรมันสามารถ เดินทางผ่านแดนได้อย่างอิสระ Memorial to the Murdered Jews of Europe และนี้ก็คือกำแแพงเบอร์ลิน แถว East Side Gallery ซึ่งอยู่คนละที่กับ ประตูบรันเดนบูร์ก ระยะทางไม่ใกล้กันนะครับต้องนั่งรถไฟมา ร้านนี้ของแท้แน่ๆใส้กรอก Currywurst(เคอร์รี่เวิร์สต์) แต่เพื่อนแนะนำว่าถ้าอยากกินของจริงๆ สูตรดั้งเดิม ต้องไปร้านอีกร้านหนึ่ง ซึ้งเขาบอกว่าเปิดมายาวนานมาก มันชื่อว่า Curry 36 โดยร้านนี้อยู่ใกล้ สถานี Mehringdamm ซึ่งผมจะแวะไปกินตอนกลางคืน ร้านที่เขาว่ากัน ส่วนที่นี้ก็เป็นสถานที่ต่างๆในเบอร์ลินที่ผมแวะมา แถวนี้มีทัวร์ด้วยนะ มีแต่คนบอกว่า ต้องมาลองนั่งทัวร์ล่องไปตามแม่น้ำในเบอร์ลิน ซึงสามารถเห็นหลายๆที่ที่สำคัญในเมืองได้ หอสถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์(Fernsehturm de Berlin) อีกที่คือ วิหารเบอร์ลิน ( Berlin Cathedral) ใครๆที่คิดว่ามาเยอรมันแล้วคนจะไม่พูดอังกฤษกัน เท่าที่สัมพัสมา ก็พูดได้เยอะแยะมากมาย การใช้ภาษาอังกฤษที่นี้ไม่ใช้อุปสรรค์เลย อันนี้เป็น ด่านตรวจ ที่เราเรียกว่า U.S. Checkpoint สมัยที่ต้องมีการข้ามแดนไปมาตอนที่ประตูยังทุบ ลืมบอกไปอีกอย่าง รถแท็กซี่ที่นี้ใช้รถเบนซ์เกือบทุกคันนะจ๊ะ ไฮโซไหมหล่ะ ตามที่ต่างๆของเบอร์ลินเราจะได้เห็นศิลปะบนกำแพงมากมาย 555 แต่ที่นั้นจะดูเป็นศิลปะมากกว่า กรุงเทพก็อารมณ์ ลูกพ่อนู้น สถาบันนี้ บลาๆๆ Berlin Tempelhof Airport ปัจจุบันถูกเปลี่ยนให้เป็นสวนสาธารณะ ทำกิจกรรมต่างๆ ทริปเบอร์ลินเป็นอะไรที่สนุกมากๆอีกทริป อาจจะเขียนเยอะหน่อยงานนี้ เพราะว่าไม่มีวีดีโอสำหรับครั้งนี้ หากใครที่ยังมองภาพไม่ออกว่าเยอรมันดังเรื่องอะไร แล้วมานี้จะสนุกไหม บอกเลย สนุกมากๆๆ ถึงมากที่สุด ปาร์ตี้ยันเช้า ที่นี้เขาปิดแค่เวลาเดียวคือ ตีห้า ประมาณชั่วโมง จากนั้นก็เปิดขายแอลกอฮอล์หลังจากนั้น บ้านเรานี้ตีสองก็ปิดและ กว่าจะเปิดก็ยันเย็น คือถ้าหากชอบประวัติศาสตร์ ไม่ชอบปาร์ตี้ ที่นี้ก็มีสำหรับคุณให้ชม คือมีอะไรมากมายให้เห็นให้ชม เอาเป็นว่า มาเที่ยวเยอรมันด้วยตัวเองดีกว่าครับ แล้วคุณจะติดใจ


คำแนะนำต่างๆ 1.หากไม่อยากไปเปลืองเงินที่ผับที่บาร์ ให้กินไปสักหน่อยก่อนออก 2.พยามยามพักในเมืองจะได้ไม่ต้องเสียค่ารถไฟแพงๆไปไหนมาไหนไกลๆ 3.ถ้าอยู่เมืองหนึ่งนานๆ แนะนำให้ซื้อบัตรรายสัปดาห์ รายเดือนไปเลย 4.สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ในเมือง หรือร้านอาหารมีเยอะมาก ขอให้สนุกกับการท่อง เที่ยวแล้วกันครับ


เมืองโรแมนติกแห่งยุโรป ต้องเมืองนี้ เวนิส	เมืองแห่งสองทวีป ระหว่างยุโรป และ เอเชีย

เกาะในฝันที่ใครๆก็อยากมา สักครั้งในชีวิต “ซันโตรินี่”	เมืองบาร์เซโลน่าแห่งวัฒนธรรม เมืองคาตาลันต้องที่นี้