เที่ยวนครวัด : 
change your language


![]() |
ทริปนี้เป็นทริป 3 วัน 2 คือในเสียบเรียบ ซึ่งผมกับเพื่อนได้ตกลงกันที่จะนั่งรถทัวร์จากสถานีหมอชิตตรงไปเสียบเรียบ โดยเวลาเดินทางนั้นคือประมาณ 9 โมงเช้า ซึ่งตั๋วนั้นราคาแค่ 750 บาทเท่านั้นครับ โดยราคานี้ประกอบไปด้วย อาหารกล่องและน้ำ ซึ่งแนะนำว่า หอบของไปกินบนรถเองดีกว่าเพราะของที่แถมมานั้นไม่อร่อยเลย
จริงๆแล้วทริปนี้ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้วางแผนอะไรสักเท่าไหร่เหมือนหลายๆทริป เพราะใจจริงคืออยากมาดูเฉยๆว่ามันใหญ่แค่ไหน แต่พอได้มาดูจริงแล้วต้องบอกว่าใหญ่เวอร์มากๆ
การเดินทางมาเดี๋ยวนี้ง่ายกว่าสมัยก่อนมาก เพราะว่าเราสามารถขึ้นรถได้ที่ขนส่ง ระยะเวลาเดินทางก็เล่นเอาเป็นวันเลยทีเดียว แต่ว่าก็สนุกถ้ามากับเพื่อนๆ เพราะที่เสียบเรียมนี้ไม่ได้มีแค่วัดอย่างเดียว แต่ก็มีสถานบันเทิงซึ่งก็ไม่ต่างจากข้าวสารสักเท่าไหร่ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวเองนั้นก็เยอะพลุกพล่านกันมากมาย เรามาเริ่มเดินทางกันเลยดีกว่าครับ
แผนที่สถานทีตั้ง
![]() |
สำหรับข้อมูลย่อๆของที่นี้ นครวัดนั้นสร้างในรัชสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 โดยได้รับอิทธิพลทางศาสนาและวัฒนธรรมจากอินเดียเต็มตัวโดยเฉพาะความเชื่อตามคติในศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู ซึ่งเข้ามามีอิทธิพลก่อนพุทธศาสนาเนิ่นนานนัก ภายในนครวัดมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก มีความยาวถึง 1.5 กม. และกว้าง 1.3 กม. รวมเป็นพื้นที่ประมาณ 1,219 ไร่ (2 ตารางกม.) หากใครที่คิดว่าฉันจะปั่นจักรยานเล่นกินลมชมวิว ขอบอกได้เลยว่าอาจเป็นความคิดที่น่าจะไม่เข้าท่าเพราะระยะทางจากตัวเมืองมาที่นี้ก็หลายกิโลแล้ว ซ้ำยังต้องปั่นรอบๆอีก เห็นสีหน้าแต่ละคนที่ปั่นๆมา หน้าแดงดำกันไปหมด เลยคิดว่าอาจจะไม่ใช้ไอเดียทีดีเท่าไหร่นัก
|
การเดินทางเริ่มต้นโดยการนั่งรถจากขนส่งหมอชิต โดยซื้อตั๋วได้ในราคา 750 บาท
แนะนำให้เพื่อนๆตุนของไว้กินบนรถหากไม่อยากกินของที่เขาแถมให้มากับค่าตั๋ว เพราะรสชาติมันไม่อร่อยเลย รถจะจอดสองครั้งคือที่เซเว่นกับที่ด่านข้ามชายแดน ซึ่งอาจจะมีดีเลย์เพราะว่าถ้านั่งมากับคนต่างชาติที่ต้องทำวีซ่า ก็ต้องรอพวกเขาทำให้เสร็จก่อน
เนื่องจากใช้ระยะเวลาเดินทางนานมากเพราะไปติดที่ด่านเพราะว่าต่อแถวเข้าคิว เลยทำให้ใช้ระยะเวลาทั้งหมดเกือบ 10 ชั่วโมง เพราะไปถึงเกือบทุ่มพอดี โดยรถนั้นจะไปจอดในตัวเมือง สำหรับใครที่ไม่เคยมาที่นี้มาก่อน ก็จะเห็นได้ว่ามีพวกตุ๊กๆเยอะแยะมากมายจะมาแย่งเรา บ้างก็บอกว่าจะพาไปส่งให้ฟรี อย่าเพิ่งไปหลวมตัวนะ เพราะพวกนี้จะมีข้อต่อรอง อย่างเช่นถ้าส่งฟรีวันนี้ พรุ่งนี้ก็ต้องไปออกทัวร์กับพวกเขา หรืออะไรก็แล้วแต่ แนะนำพอลงปั๊ป ให้เดินๆไปดูรอบๆเมือง จะมีพวกรถตุ๊กๆทั่วไปรับส่ง พาไปส่งทุกที่ในเสียบเรียม (จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ใหญ่มากเลย เล็กๆนี้เอง) โดยรถตุ๊กๆพวกนี้จะคิดค่าบริการ 1 USD (ประมาณ 30-40 บาทถ้าจ่ายเป็นเงินไทย) |
เนื่องจากผมกับเพื่อนไม่ได้จองที่พักกันเลย เลยเดินหาโรงแรมกันไปเพราะเช็คจากข้อมูลบางที่แล้วเขาบอกว่าไม่ต้องจองก็ได้ เพราะรูปในเว็บไซต์มักจะไม่เหมือนกับสถานที่จริงโดยเฉพาะในเสียบเรียบ เราเลยไม่ได้จองกันและเดินไปหาที่ดีๆกัน สุดท้ายเดินมานานก็เลยตกลงว่าจะไปพัก Guest house แทน ซึ่งถามว่าโอเคไหม ผมก็ว่า มันก็ไม่ได้น่าเกลียดเท่าไหร่ แต่ปัญหาคือน้ำที่อาบนั้นมีรสชาติด้วย (เห็นคนบอกว่าสูบมาจากทะเลสาบโตเลนเนี้ยแหละ 555) |
พอมาถึงที่พักกัน เราก็สั่งอาหารกินกันในที่พักเลย Guest house ที่ผมอยู่นั้นจำชื่อไม่ได้เหมือนกัน น่าจะชื่อว่า Hi Siem Reap ซึ่งที่นี้ก็มีครบไม่ว่าจะอาหาร หรือรวมไปถึงpackage ต่างๆ ส่วนราคานั้นผมจำไม่ได้ว่าจ่ายไปเท่าไหร่แต่น่าจะประมาณไม่เกินห้าร้อยต่อคืนครับ ซึ่งก็รวมอาหารเช้าด้วย (เหมือนจะเซอร์ไพส์นะ จริงๆแล้วอาหารเช้าก็คือขนมปังยาวๆกับกาแฟ แค่นี้เอง 555) หลังจากกินอิ่มกันแล้ว ผมกับเพื่อนก็ออกไปเดินเล่น แต่ก่อนจะไปนั้นเราก็ได้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องการเช่ารถไปนครวัด สรุปว่าที่นี้ก็มีบริการ สำหรับทั้งวันตกอยู่ 13 USD ก็ไม่แพงเท่าไหร่ เพราะเขาจะพาเราไปทุกที่ในนครวัด และก็จะจอดรอเราในขณะที่เราไปทัวร์แต่ละวัดกัน บรรยากาศรอบๆเมืองเสียบเรียมระหว่างเดินทางไปนครวัด สถาพถนนหนทางก็อย่างที่เห็นตามภาพอ่ะครับ
นั่งกินลมชมวิวเสียมเรียบมาเรื่อย ในที่สุดรถตุ๊กตุ๊ก ก็มาจอดที่ซื้อตั๋วอย่างที่เห็นดังภาพ |
ราคาของค่าเข้านั้นจะมีหลากหลายมากตั้งแต่ราคาสำหรับ 1 วัน , 3 วัน , 7 วัน อะไรประมาณนั้น คือตอนแรกมาเห็นก็อ้าว ใครจะไปซื้อเจ็ดวันกันฟ่ะ แหม แค่มาเที่ยวัดเที่ยว 7 วันมันจะเยอะไปไหมก็เจอแต่สถานที่เดิมๆ ผมก็เลยเลือกซื้อแค่ 1 วันเท่านั้นเพราะคิดว่ามันคงไม่ได้อะไรมากมายหรอก แต่พระเจ้า แค่หารู้ไม่ว่าวัดมันใหญ่โครตๆ มีตั้งหลายวัดสำคัญๆให้ดู บอกได้เลยว่า แค่เที่ยววัดเดียวก็เหนื่อยมาก ทางเดินเข้าวัดก็ยาวเวอร์ คือใช้เวลาเกือบทั้งวันแล้วยังไม่ทันจะได้ดูอะไรเลย 555
ในที่สุดรถก็ขับมาจอดให้พวกผมเดินกันไปต่อ ตรงนี้ก็จะมีรถตุ๊กตุ๊กอีกหลายๆคันที่มาจอดรอลูกค้าเหมือนกัน ลืมบอกไปอีกอย่าง รู้สึกเหมือนว่าคนที่นี้จะพูดภาษาไทยได้หลายคน เวลาบอกผมว่ามาจากไหน พอบอกว่าประเทศไทย คนก็กัมพูชา ก็เริ่มที่จะมาพูดภาษาไทยกับผม ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดีมาก แต่รู้เรื่อง ดูเหมือนใกล้ แต่บอกเลย เดินขาลากมาก ไกลมาก และร้อนมากๆๆ แนะนำใครมา ทาครีมเยอะๆ อีกอย่างคือร่มพกมาเลยไม่เสียหาย เพราะที่นี้ร้อนตับแตกมากๆเหมือนอยู่ทะเลทรายซาฮาร่า
|
จัดไปหล่อๆรูปนึง หน้าใสจั๋ว เพราะว่าแดดแรงมาก 555 เดินเข้ามาได้ก็ต้องเดินไปอีก พอเห็นแสงสว่างริบรี่ๆ ก็เห็นว่ายังมีทางอีกยาวไกลให้เดินออกไปอีก 555
ในที่สุดก็เดินออกมาจนได้ จากที่เห็นนั้น ก็จะเห็นได้ว่ามันกำลังปิดซ้อมบรูณะอะไรสักอย่างอยู่ ทำให้เราต้องเดินอ้อมไปเข้าด้านข้างกันแทนครับ
อย่างที่ทราบกันครับ คือผมเน้นเที่ยวดูวิวสถานที่ต่างๆ ไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร และเนื่องจากเดินกันแบบเหนื่อยโฮกๆ เลยบอกได้เลยว่า สำหรับผม ไม่มีอะไรเลยนอกจากหิน 555 สำหรับใครที่มาพร้อมกับความรู้ ผมว่าที่นี้คุณจะได้ศึกษาอะไรมากเลย ไม่ใช้แค่มองอะไรก็เป็นหินไปหมดเหมือนผม
ในที่สุดเราก็ขึ้นมาบนจุดที่สูงที่หนึ่งในวัด แค่วัดเดียวก็ทำให้เราหมดแรงกันแบบไม่อยากเดินไปไหนเลย อยากกลับไปที่พักอย่างเดียว ขนาดผมเดินเก่งมากๆชอบเดินลุย ไม่ว่าจะฝนหิมะ หรือระยะทางจะ 10 โล แต่บอกเลยว่างานนี้ทำเอาเหนื่อยมาก จากลูกศรสีแดง จะเห็นได้ว่าเราเดินมาตั้งแต่จุดนั้น ซึ่งนั้นก็เป็นกิโลเลยทีเดียว อันที่จริงผมว่าที่หมดแรงนั้น อาจเป็นเพราะว่าแดดแรงมาก หาห้องน้ำยาก แถมน้ำก็ไม่ได้พกมา เลยทำให้กินพลังงานเราไปหมดเลย หากใครที่เดินมาไกลๆแล้วหรืออยู่ในวัด หากต้องการเข้าห้องน้ำ ต้องเดินออกมาแถวริมภายในใกล้ๆร้านอาหาร จะมีวัดเล็กๆอยู่ มีบริการห้องน้ำให้ตกคนไม่กี่บาท คือใส่ลงไปในกล่องทำบุญแหละครับ แต่คิดสภาพว่าหากเพื่อนๆอยู่บนยอดแบบนี้เหมือนผม แล้วปวดขึ้ขึ้นมา บอกได้คำเดียวว่า ขี้แตก .. |
รูปด้านขวาคือนางอัปสร เป็นสิ่งเดียวที่ผมรู้จักในวัด 555 เออ ลืมบอกไปอีกอย่าง เนื่องจากวัดใหญ่มาก พวกมือบอลที่ชอบวาดจิตรกรรมพนังก็เยอะมาก พวกนี้น่าจับเอาไปเผาให้หมด ดีนะครับที่ผมไม่เห็นภาษาไทย เพราะเห็นแล้วจะรู้สึกน่าละอายมาก ส่วนมากจะเป็นภาษาจีน ของนักท่องเที่ยวจีนที่มาแล้วมือบอลเขียนไปทั่ว อยากให้ฝากไว้ว่าอย่าไปทำให้มันสกปรกเลย เพราะนอกจากจะไม่สวยแล้วยังเสียภาพลักษณ์อีก สารภาพก่อน 555 จริงๆผมก็เคยทำเหมือนกันสมัยอยู่ต่างประเทศ แต่คือผมเขียนลงไปในผนัง แต่ไม่ใช้ในสถานที่สำคัญ แต่เป็นผนังที่คนเขียนกันเยอะๆ เหมือนที่ที่เขาเพ้นกันระหว่างทางที่ไปโบสถ์ 555 แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาอนุญาติให้เขียนหรือเป่าแต่สังเกตุดูแล้วคือน่าจะนะ เพราะดูจากคนเขียนเต็มพนังยาวสองสามเมตร
มาต่อกันอีกวัด จริงๆผมเหนื่อยสุดๆแล้ว แต่แบบไหนๆเสียตังค์ขออีกสักวัดแหละนะ ก็เลยให้คนขับพาไปอีกวัดที่ห่างออกไปอีก แต่งานนี้ไม่ได้เข้าไปสำรวจเพราะว่าหมดแรงกันแล้ว ก็เลยได้แค่ถ่ายรูป4-5 นาทีและก็มุ่งหน้ากลับที่พัก
แถมอีกวัดใกล้ๆกันกับวัดนี้
สรุปทริปนี้ก็จบเร็วมาก 5555 แต่ว่ายังไม่จบสำหรับชีวิตกลางคืน หลังจากนั้นก็กลับบ้านไปนอนพัก เตรียมออกไปดิ้นอีกตอนกลางคืนครับ บอกก่อนเลยว่าหากใครต้องการซื้อของ สามารถจ่ายเป็นเงินไทยได้ แต่เรท แย่มากๆๆๆๆๆ ประมาณว่า 1 ดอลเท่ากับ 30 บาท ที่นี้จะคิดเป็น 40 บาทแทน นั้นก็หมายความว่า หากของราคา 2 ดอล เขาจะคิดเป็นเงินไทย 80 บาท แพงไหมหล่ะ ? แนะนำให้เตรียมเงินดอลล่าห์มาใช้ที่นี้แทน จะถูกกว่ามาก มีตัวอย่างให้ดู
สำหรับใครที่ชอบดิ้นๆ ก็ให้มาแถวร้าน Angkor what และตรงข้ามอีกร้านชื่อว่า Temple club เพราะจะมีผับสองที่นี้ที่เปิดยันเช้า
อันนี้สภาพก่อนไป
อันนี้หลังไป ได้ถ่ายรูปกับสาวกัมพูชาด้วย หลังจากเที่ยวทุกอย่างเสร็จ วันรุ่งขึ้นสายๆ เราก็ได้นั่งรถตู้กลับ คือที่พักจะมีรถตู้บริการด้วย ขับถึงกรุงเทพเลย โดยราคาอยู่ที่ 3-4-5 ร้อยบาท จำไม่ได้เหมือนกันเท่าไหร่ แต่ถูกกว่าขามา คือเราได้จองรถตู้ล่วงหน้าก่อนวันหนึ่งที่โรงแรม สรุปโดยภาพรวมทริปนี้สามวันสองคืนตกคนละ 6,000 บาท จริงๆใช้เยอะกว่านี้นิดนึงเพราะว่าไปกินไปดื่มเยอะมาก เอาเป็นว่าหากใครที่อยากจะมาเที่ยวก็ให้ประมาณงบให้ดีๆครับ ส่วนเรื่องความเป็นมิตรของคนที่นี้ คนที่นี้ผมว่าน่ารักมากๆเลยครับ คือหลายๆคนแถบจะไม่ค่อยรู้เรื่องการเมืองกับไทย มีแต่คนไทยที่คอยดูถูก ว่าเขาไปทั่ว เอาเข้าจริงๆถ้าหากสัมพัสบรรยากาศกับคนที่นี้จริงๆบอกได้เลยว่าน่ารักมาก เป็นคนยิ้มแย้มไม่ต่างจากคนไทย หากใครที่แอนตี้ๆไม่อยากมาเพราะปัญหาการเมือง ก็ให้ลบภาพนั้นไปก่อนซะ แล้วคิดว่ามาเที่ยวสัมพัสบรรยากาศและผู้คนพื้นเมือง ทริปนี้ก็ถือได้ว่าเป็นทริปที่ประทับใจอีกทริปหนึ่งทีเดียว หากใครอยู่เป็นสัปดาห์แล้วคิดอะไรไม่ออกนอกจากไปวัด ก็ไปเที่ยวที่ทะเลสาบโตเลนได้ ไปนั่งเรือดูชีวิตคนในแม่น้ำ หากเบื่อๆก็ไปผับบาร์ ตลาด มีร้านอาหารภัตรคารมากมายทั้งแม็กซิกัน หรืออิตาลี หรือไม่ก็ไปว่ายน้ำ และอีกเยอะแยะมากมายให้ทำ แต่หากใครไม่อยากทำอะไรเลย ก็นอนอยู่แต่ในห้องก็ได้ครับ 555 เอาเป็นว่าเจอกันทริปหน้าครับ บายๆ |
ท่องเที่ยวนครวัด (video) รายการ x-wander แบกเป๋าเที่ยว |
คำแนะนำสำหรับการเดินทาง
1. หากไม่ได้มาช่วงไฮซีซัน ไม่ต้องจองตั๋วจากกรุงเทพก็ได้ครับ เข้าไปขนส่งแล้วซื้อตั๋วได้เลย
2. แนะนำแลกดอลล่าห์ไปนะครับ ประหยัดได้เยอะ ส่วนต่อราคาของนั้น ก็ต่อเยอะๆก็ได้ครับ ผมทำและได้ชุดมาใส่ตัวหนึ่งสีขาวอย่างที่เห็นในภาพ
3. ระวังพวกคนเสนออะไรฟรีๆมาให้ ของฟรีไม่มีในโลกจำไว้ เวลาที่นั่งรถถึงเสียบเรียบ แนะนำให้เดินๆออกไปเรื่อยๆสักพัก หากหาที่พักไม่เจอค่อยจ้างตุ๊กๆไปส่งแทน ประมาณ 1USD
4. ใครมานานๆแนะนำให้ไปทะเลสาปโตเลน หรือไปดูพระอาทิตย์ตกดิน หรือพระอาทิตย์ขึ้นในบริเวณอังกอร์วัด ก็น่าจะดี เพราะจะได้อีกวิวที่สวยงามได้รูปถ่ายไปอวดเพื่อนๆกัน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
![]() |
![]() |
---|---|
กินลมชมวิวกับอากาศเย็นๆ ในฮ่องกง | |
![]() |
![]() |
กินลมชมวิวไปรอบๆเมืองสิงคโปร์ | |
Follow me on



---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------